ลูกควรเข้าโรงเรียน (school) ตอนอายุเท่าไหร่
พัฒนาการเด็กในแต่ละช่วงวัย ที่ผู้ปกครองควรปูพื้นฐานให้พวกเขาได้เตรียมความพร้อมในพัฒนาการด้านการศึกษาก่อนเข้าโรงเรียน
อันที่จริงหากจะสอบถามว่า แท้จริงแล้วลูกควรเข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุเท่าไหร่นั้น ต้องย้อนถามกลับไปหาคำตอบจากผู้ปกครองว่า พร้อมให้ลูกออกไปเข้าสังคมและเสริมพัฒนาการการเรียนรู้กับผู้อื่น ครู เพื่อน ได้ตั้งแต่ตอนไหน
โรงเรียนสำหรับเด็ก เปิดให้บริการ อำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองได้ฝากฝังลูกน้อยเข้าสู่การปูพื้นฐานจากคุณครูตั้งแต่วัยเด็ก
- ในสถานรับเลี้ยงเด็ก ดูแลโดยครูพี่เลี้ยง ในช่วงนี้ที่โรงเรียน จะเน้นวินัยและการอยู่ร่วมกันในสังคม
- ให้เด็กได้ทานอาหาร นอนหลับ
- ฝึกหัดการสื่อสารแบบเบื้องต้น คำศัพท์ต่างๆ
- การแบ่งปันในสังคม
- การหัดหยิบจับ ใส่เสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ใส่รองเท้า
- เรียนรู้และทำความเข้าใจการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
- ฯลฯ
โดยเด็กที่เริ่มเข้าสถานรับเลี้ยงเด็กนั้น ก็จะได้รับการพัฒนาจากครูพี่เลี้ยง เหมือนการเลี้ยงดูจากผู้ปครองที่บ้าน ซึ่งอันที่จริง หากผู้ปกครองทำงานที่บ้าน หรือมีเวลาที่จะได้เลี้ยงดู แนะนำพวกเขาด้วยตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องฝากพี่เลี้ยงให้ดูแลในส่วนนี้ และข้อดีของการได้ปูพื้นฐานทักษะด้วยตัวของผู้ปกครองเอง ยังช่วยให้เด็กๆ เปิดรับ และยังเป็นการเสริมสายใยครอบครัวอย่างเข้มแข็ง ความรัก ความผูกพันและความเข้าใจต่างๆ เด็กๆ จะเริ่มจดจำในช่วงวัยนี้ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ทางการศึกษาในด้านต่อไป
รู้ได้อย่างไรว่าลูกน้อย พร้อมเข้าโรงเรียน
เมื่อลูกมีปฏิกิริยาโต้ตอบ ทั้งการสื่อสาร การช่วยเหลือตัวเองและสามารถเข้าสังคม (เล่นสนุกกับเด็กวัยเดียวกันหรือใกล้เคียงกันได้)
โดยทั่วไปแล้ว เด็กๆ จะเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลในช่วงอายุ 3-5 ขวบ
เตรียมความพร้อมในวันที่ลูกต้องเข้าโรงเรียน
- ฝึกให้พวกเขาสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตัวเอง เช่น เปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดรองเท้า สวมรองเท้า จับแปรงสีฟัน ดื่มน้ำ ทานข้าว
- ไม่ตัวติดกับผู้ปกครองมากเกินไป เช่น เข้าห้องน้ำได้ โดยที่เด็กๆ ไม่งอแง ร้องไห้ตาม หรือการที่สามารถอยู่บ้านกับญาติได้โดยไม่งอแง
- ควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ขว้างปาข้าวของ รู้จักคำว่าผิดหวัง เรียนรู้ได้ว่า ไม่มีสิ่งไหนที่ต้องการแล้วจะได้เสมอไป
- ฝึกเรียนรู้อักษร ตัวเลข และคำศัพท์ง่ายๆ
- หยิบจับ เล่นตัวต่อได้
- เดินขึ้น-ลงบันได้ได้ด้วยตัวเอง
- พูดเป็นประโยค หรือร้องเพลง
- บอกความต้องการของตัวเองได้ เช่น หิวน้ำ ปวดฉี่
- หยิบดินสอสี หรือวาดรูป ขีดเขียนได้ด้วยตัวเอง รู้จักสีแต่ละสีที่แตกต่างกัน
ปูพื้นฐานให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และมีความสามารถในการพัฒนาตามช่วงวัย ช่วยให้พัฒนาการต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและยังทำให้เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม
พื้นฐานภาษาอังกฤษ ปั้นลูกให้เก่งสองภาษา เทคนิคโดยครูญาญ่า ที่ผู้ปกครองสามารถนำไปใช้สอนลูกๆ เด็กๆ ได้เองที่บ้าน ด้วยวิธีง่ายๆ และกิจกรรมสนุกมากมาย พร้อมประโยคสนทนาในชีวิตประจำวันที่สามารถใช้ในการสื่อสารให้พวกเขาคุ้นเคย และเก่งภาษาอังกฤษได้มากยิ่งขึ้น
- Line : Kru Yaya English
- FB : Kru Yaya สอนเทคนิคเลี้ยงลูก 2 ภาษา
- Tiktok : Kru Yaya สอนเลี้ยงลูก 2 ภาษา