โรงเรียนสองภาษา EP หรือ MEP แบบไหนดี

เลือกโรงเรียนสองภาษายังไงให้เหมาะกับลูกและครอบครัว ก่อนอื่นควรต้องรู้ก่อนว่าโรงเรียนทั้งสองนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะไม่ใช่เพียงแค่ค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน แต่ยังรวมถึงหลักสูตรการเรียนการสอนและครูผู้สอนอีกด้วย หากผู้ปกครองหาข้อมูลนี้และนำมาพิจารณาในการเลือกก่อนที่จะส่งลูกน้อยเข้าศึกษา จะช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาและไม่กดดันลูกมากเกินไปอีกด้วย
โรงเรียนสองภาษา EP แตกต่างยังไงกับ โรงเรียนสองภาษา MEP
โรงเรียนสองภาษาหลักสูตร EP (English Program) หรือ Bilingual School
กลุ่มโรงเรียนที่ให้ความสำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษให้นักเรียนสามารถสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่วพร้อมไปกับประสบการณ์การเรียนรู้ตามพัฒนาการแห่งวัย เด็กๆ จะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมชาวต่างชาติของเพื่อนนักเรียนและครู
เน้นสอนวิชาพัฒนาการการเรียนรู้ตามแกนของกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ 50% ภาษาไทย 50% ของการเรียนการสอน
- หลักสูตร (ขึ้นอยู่กับโรงเรียนเป็นผู้กำหนด) แต่ยังคงไว้ซึ่งวิชาพื้นฐาน ทั้ง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศานตร์ ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ ฯลฯ
- ครูผู้สอนชาวต่างชาติและครูไทยที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ
โรงเรียนสองภาษาหลักสูตร MEP (Mini English Program)
กลุ่มโรงเรียนที่เสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษในการสื่อสารโดยครูชาวต่างชาติ
สอนวิชาพัฒนาการการเรียนรู้ในบางรายวิชาเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษไม่ถึง 50% ของการเรียนการสอน
- หลักสูตรคู่ขนานไปกับหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หลักสูตรที่เลือกใช้จะเน้นไปทางประเทศที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนใกล้กับของประเทศไทย เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
- ครูชาวต่างชาติสอนใน 4 กลุ่มวิชา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและภาษาอังกฤษ
โรงเรียนสองภาษาแตกต่างจากโรงเรียนนานาชาติอย่างไร
โรงเรียนนานาชาติ หรือ International School
กลุ่มโรงเรียนที่จะเน้นการศึกษาตามหลักสูตรต่างประเทศที่ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับนักเรียน อ้างอิงตามหลักสูตรสากล โดยในประเทศไทย โรงเรียนนานาชาติจะใช้ 3 หลักสูตรในการสอน ได้แก่
หลักสูตรอเมริกัน (American English)
ใช้ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ สหรัฐอเมริกา เน้น Chid Center ความต้องการของผู้เรียนเป็นหลักในการใช้ชีวิตประจำวัน ความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์
- อนุบาล หรือ Kindergarten (KG)
- ประถมศึกษา (ป.1-ป.6 / grade 1-6) หรือ Elementary School (ES)
- มัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3 / grade 7-9) หรือ Middle School (MS)
- มัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6 / grade 10-12) หรือ High School (HS) หลักสูตร International Baccalaureate Diploma Programme : IB หรือ หลักสูตร Business เมื่อจบการศึกษาสามารถนำไปศึกษาต่อมหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก
หลักสูตรสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ)
ใช้ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการประเทศอังกฤษ เน้นการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง กิจกรรมน้อยกว่าการเรียน การเข้าศึกษาจะอิงตามวัย (ช่วงอายุตามพัฒนาการของเด็ก)
- อายุ 5 ปี ระดับอนุบาล : year 1
- อายุ 6-11 ปี ระดับประถมศึกษา : year 2-7
- อายุ 12-14 ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น : year 8-10
- อายุ 15-17 ปี ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย : year 11-13
หลักสูตรนานาชาติ (International Baccalaureate Program)
หลักสูตรเน้นการเรียนการสอนตามพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ให้เรียนรู้วิชาการ กิจกรรมและการช่วยเหลือสังคม แบ่งการเรียนการสอนตาม Early years และ Middle Years เพื่อให้สามารถไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย
การเลือกโรงเรียนจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลูกและเงื่อนไขต่างๆ ของครอบครัว เช่น
- ค่าเทอม ค่าใช้จ่าย ของแต่ละหลักสูตรจะมีความแตกต่างกันพอสมควร
- สถานที่ตั้งของโรงเรียน เพื่อสะดวกในการรับ-ส่ง โดยเฉพาะตอนเช้าก่อนเข้าเรียน ลูกๆ ไม่ควรไปโรงเรียนสายเพื่อเป็นการฝึกวินัยให้พวกเขาด้วยค่ะ
- นิสัยของลูกมีแนวโน้มไปทางไหน ให้ดูจากหลักสูตรและแนวทางการสอนที่เหมาะสมกับเขา ทั้งด้านหลักสูตร ความเข้มข้นของวิชา ความเข้มงวดในระเบียบวินัย เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียดและความกดดันต่อลูกน้อย
รู้แบบนี้แล้วผู้ปกครองพอจะมองออกได้หรือยังคะว่า โรงเรียนแบบไหนเหมาะสมกับลูกของคุณ สำหรับครอบครัวไหนที่เรียนโรงเรียนหลักสูตรของไทย หรือโรงเรียนไทย ก็ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ เราสามารถฝึกลูกให้เก่งภาษาได้ด้วยการสอนจากผู้ปกครองด้วยเซทคู่มือ สอนลูกให้เก่งสองภาษาโดยครูญาญ่า
- Line : Kru Yaya English
- FB : Kru Yaya สอนเทคนิคเลี้ยงลูก 2 ภาษา
- Tiktok : Kru Yaya สอนเลี้ยงลูก 2 ภาษา