Gramma VS conversion แบบไหนจำเป็นกว่ากัน

เรียนภาษาอังกฤษทั้งที อยากเก่งสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ควรเลือกเรียนแกรมม่า (Gramma) หรือ สนทนา (conversation) ดีกว่ากัน

Gramma คืออะไร

Gramma (แกรมม่า) ช่วยโครงสร้างประโยคให้ถูกหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ทั้ง คำศัทพ์ รูปประโยค การประสมคำในแต่ละช่วงเวลา อันเป็นหัวใจสำคัญในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง การเรียนแกรมม่า จำเป็นต้องศึกษาบริบทต่างๆ ทั้งในเรื่องของ

Verbs (คำกิริยา) แสดงถึงกิจกรรม การกระทำต่างๆ ทั้งความคิดและพฤติกรรม
Adverbs (คำขยายกริยา)
Tenses ประโยคคำกิริยา ที่ระบุช่วงเวลาของการกระทำนั้นๆ เช่น อดีต ปัจจุบัน อนาคต
Prepositions (บุพบท)
Conjunctions (คำเชื่อมประโยค)
Conditional Sentences (ประโยคเงื่อนไขต่างๆ)
ฯลฯ

การเรียนรู้ในแต่ละส่วนองค์ประกอบประโยคเหล่านี้ จึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาการได้เริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ไปจนถึง advance ก็ยิ่งทำให้ความสามารถในการสื่อสาร ทั้งการอ่าน การเขียน เป็นไปได้อย่างดี

Conversation คืออะไร

conversation หรือ การที่สามารถโต้ตอบ สื่อสารพูดคุยได้ในทุกสถานการณ์ อาจเริ่มจากความกล้า การที่สามารถจดจำคำศัพท์แต่ละคำแล้วนำมาผสมรวมกันเป็นประโยค ทั้งแบบประโยคสั้น หรือประโยคยาว รวมทั้งการใช้ศัพท์แสลง ศัพท์สั้น (ของคนรุ่นใหม่) เช่นนี้ ก็ทำให้สื่อสารได้ในชีวิตประจำวัน

หากถามว่า ระหว่าง Gramma หรือ Conversation แบบไหนจำเป็นกว่า

การเรียนรู้ทั้งแกรมม่าและสนทนา ทั้งสองอย่างสำคัญค่ะ หากเก่ง Gramma ก็สื่อสารได้เก่ง แต่หากไม่เก่ง Gramma ก็ใช่ว่าจะสื่อสารไม่ได้ ทั้งนี้ หากเก่ง Conversation สามารถโต้ตอบการสนทนาในรูปแบบ สถานการณ์ต่างๆ ได้ดี ถามได้ ตอบได้ แบบนี้ ก็จะพัฒนา Gramma ไปได้เองตามธรรมชาติ

ดังนั้น การ เรียนรู้ภาษาอังฤกษให้เก่ง ไม่จำเป็นต้องแยกเลยว่า จะเริ่มต้นอะไรก่อนนี้ สามารถพัฒนา ฝึกฝนควบคู่กันไปได้

หากต้องการสื่อสาร สนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ก็สามารถเรียนรู้จากคำศัพท์ (Vocabulary) วิธีง่ายที่สุด คือ สังเกต เรียนรู้รูปประโยคจากการดูหนัง ดูภาพยนตร์ ซึ่งก็จะช่วยให้เข้าใจและคุ้นเคยกับสำเนียง การสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างดีและมีความเข้าใจมากขึ้น การหัดพูดตามบทสนทนาในหนังที่ชอบ นิทานที่ชอบ ก็จะยิ่งช่วย ให้การออกเสียงคุ้นเคยและพูดได้คล่องยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเลือกเรียนแกรมม่า หรือ บทสนทนา สิ่งสำคัญคือการหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากไลฟ์สไตล์ การเรียนรู้ด้วยตัวเองตามสิ่งที่สนใจ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ หรือแม้แต่การหาครูและคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับตัวเองก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก ทำความเข้าใจและเริ่มต้นปูพื้นฐานได้อย่างดีจะช่วยให้เก่งภาษาและสื่อสารได้ง่ายเหมือนเป็นภาษาหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน